วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

ตำนานเฮดีส



เฮดีส (อังกฤษHades, /ˈheɪdiz/) ในที่ชาวโรมันเรียกว่า พลูโต (Pluto) เทพเจ้าผู้ปกครองนรกและโลกหลังความตาย ในตำนานถือว่ามีศักดิ์เป็นพระเชษฐาของ ซูส ราชาแห่งเหล่าเทพ และยังถือได้ว่าเป็นเจ้าแห่งทรัพย์เพราะเทพเฮดีสมีสิทธิ์ในทรัพย์สินทุกอย่างภายใต้พื้นพิภพ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ดีส (Dis) ซึ่งแปลตรงตัวว่า ทรัพย์สิน
เฮดีส แท้ที่จริงแล้วเป็นเทพที่มีความยิ่งใหญ่อีกองค์หนึ่งเช่นเดียวกับซูส หรือ โพไซดอน เนื่องจากเป็นพี่น้องกัน แต่ทว่าความที่เฮดีสเป็นผู้ปกครองนรกซึ่งเป็นโลกใต้ดินซึ่งมีแต่ความมืดมิดและน่ากลัว จึงไม่ใคร่ขึ้นไปยังเขาโอลิมปัส อีกทั้งเทพองค์อื่น ๆ ก็ไม่ใคร่ที่จะต้อนรับเฮดีสด้วย ดังนั้น เฮดีสจึงไม่มีชื่อเป็นหนึ่งในเทพโอลิมปัสเฉกเช่นองค์อื่น ๆ
เฮดีส ได้ชื่อว่าเป็นเทพที่มีความเที่ยงธรรมอย่างมาก ตัดสินความดีชอบของคนตายโดยปราศจากอคติใด ๆ ทั้งสิ้น กล่าวกันว่า พระองค์มีหมวกวิเศษอยู่ใบหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้สวมหายตัวได้ ซึ่งในครั้งที่ทำสงครามกับเหล่าไททันส์นั้น เฮดีสใช้หมวกนี้ลอบเข้าไปทำลายอาวุธของไททันส์ก่อนการต่อสู้ และพระองค์มีเทพผู้ช่วยในการตัดสินความดีชั่วในยมโลกอีก 3 องค์คือ ราดาแมนทีส, ไมนอส, ไออาคอส ที่เรียกว่า สามเทพสุภา และยังมีฮิปนอส เทพแห่งการหลับไหล และ ทานาทอส เทพแห่งความตายคอยช่วยอีก
เฮดีส มีชายาองค์หนึ่งชื่อ เพอร์ซิโฟเน (Persephone) เป็นเทพแห่งฤดูใบไม้ผลิซึ่งเป็นพระธิดาองค์เดียวของ ดีมิเทอร์ (Demeter) เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์และการเกษตร จากความงดงามของนางเพอร์ซิโฟเน ทำให้เฮดีสลืมเลือนไปหมดสิ้นว่า นางที่แท้จริงคือหลานสาวแท้ ๆ ของตน เพราะว่า ดีมิเทอร์มีศักดิ์เป็นพระขนิษฐาของพระองค์เอง เมื่เฮดีสได้ฉุดนางไปเป็นเทพีแห่งนรกคู่กัน ทำให้เกิดเป็นกรณีพิพาทขึ้นระหว่างทวยเทพแห่งโอลิมปัส ซูสซึ่งเป็นองค์ประธานได้ตัดสินให้เฮดีสต้องคืนเพอร์ซิโฟเนแก่ดิมิเทอร์ เฮดีสจึงใช้อุบายทำให้เพอร์ซิโฟเนสามารถกลับมาออกมาจากนรกได้เพียงแค่ปีละ 3 เดือน และเหตุนี้จึงเป็นเหตุที่ทำให้ฤดูใบไม้ผลิเกิดขึ้นเพียง 3 เดือนเท่านั้น
เป็นโอรสของเทพโครนัส (Cronus) และเทพีรีอา (Rhea) เช่นดียวกับซุสและโพไซดอน เมื่อวันหนึ่งซุสกระทำมหาปิตุฆาตโค่นเทพโครนัสบิดาของตนเองลงจากบัลลังก์แล้วแต่งตั้งให้พี่น้องตนเองอย่างโพเซดอนให้ปกครองสถานบันเทิง...เอ้ย! ปกครองมหาเทพสมุทรผืนน้ำทั้งปวง และให้เทพฮาเดสปกครองดินแดนยมโลกหรือนรกที่มีความมืดมิดและน่ากลัว ฮาเดสไม่ค่อยขึ้นไปบนเขาโอลิมปัสบ่อยนักอีกทั้งเทพองค์อื่น ๆ ก็ไม่ชอบที่จะต้อนรับฮาเดสด้วยเพราะเกรงจะนำความตายมาให้ ดังนั้นฮาเดสจึงไม่มีชื่อเป็นหนึ่งในเทพโอลิมปัสเฉกเช่นเทพองค์อื่น ๆ
อาณาจักรยมโลกของพระองค์นั้นเป็นดินแดนเร้นลับอยู่ภายใต้พื้นโลกที่แสงอาทิตย์ส่องไปไม่ถึง พ้องกับนามของพระองค์ที่เป็นแปลเป็นภาษากรีกว่า “มองไม่เห็น” นั่นเอง แม้จะดูน่ากลัวชวนให้ชิงชัง แต่ในความมืดย่อมมีแสงสว่างเช่นเดียวกับฮาเดสที่ขึ้นชื่อว่ามอบความเป็นความตายได้อย่างเที่ยงธรรม ตัดสินความดีความชั่วของมนุษย์และทวยเทพโดยปราศจากอคติใด ๆ ทั้งสิ้น และด้วยความที่ทรงเป็นเทพผู้กุมวิญญาณคนตาย ฮาเดสจึงสามารถควบคุมคืนชีพซากศพ และดวงวิญญาณนักรบต่าง ๆ ให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง (ในภาค 3 เหล่านักรบสปาตันก็คืนชีพขึ้นมาลุยกับพี่เหม่งด้วยอำนาจของฮาเดสนี่แหละ
ครั้งหนึ่งเมื่อเทพฮาเดสได้เสด็จขึ้นมาบนพื้นโลกได้พบกับ “เพอร์เซโฟนี” ธิดาสาวของดิมิเตอร์เทพี แห่งฤดูใบไม้ผลิโดยบังเอิญ ความรักระหว่างน้าหลานจึงเกิดขึ้น ฮาเดสจึงลักพาตัวเพอร์ซิโฟนีไปนรกโดยทีเธอไม่เต็มใจ (ทางฝั่งฮาเดสเองก็ถูกคิวปิดยิงศรรักใส่เพราะถูกแกล้ง) ทำให้เทพีเมดิเตอร์ผู้เป็นแม่เสียใจจนทำให้โลกมีแต่ความหนาวเย็น มหาเทพซุสต้องส่งเทพเฮอร์มีสเป็นฑูตไปเจรจากับเทพฮาเดส จนได้ข้อสรุปว่าจะยุบสภา เอ้ย!... สรุปว่าตอนนี้สายไปซะแล้วที่ส่งคืนเพอร์ซิโฟนี เพราะเธอได้กินผลทับในยมโลกไป 3 เม็ด ใครก็ตามที่อาหารของยมโลกจะกลับไปโลกเบื้องบนไม่ได้อีก แต่ก็ฮาเดสก็ให้สัญญาว่าในแต่ละปีเทพีเพอร์เซโฟนีจะกลับขึ้นมาอยู่บนพื้นโลก 6 เดือน (ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิ) และต้องกลับไปอยู่กับเทพฮาเดสอีก 6 เดือน (ฤดูใบ้ไม้ร่วงและฤดูหนาว)
การที่ฮาเดสได้อยู่ร่วมกับมเหสีเพียง 6 เดือนในแต่ละปีนั้น สะท้อนถึงความเปล่าเปลี่ยวของเทพองค์เป็นอย่างดี ด้วยความที่ส่วนลึกมีความโศกเศร้าไร้เทพองค์ใดที่เปรียบดั่งสหายและยังมีความรักที่ไม่สมหวังเท่าไหร่นักทำให้ฮาเดสพาลนึกว่าตนเองนั้นอัปลักษณ์หรือไง ซึ่งก็อาจจะเหมือนในเกมภาค 3 ที่รูปร่างหน้าตาฮาเดสนั้นดูน่ากลัวสกปรก อีกทั้งบางตำนานกล่าวว่า ฮาเดสถึงขนาดปิดผนึกใบหน้าตนเองเอาไว้ไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง ทำให้ต้องใส่หน้ากากปิดบังและห่อหุ้มด้วยไฟโลกันต์ หรือในการ์ตูน “เซนต์ไซย่า” ก็เช่นเดียวกันคือฮาเดสไม่มีใบหน้าแต่เป็นเพียงอวกาศสีดำมืดเท่านั้น
เทพเฮดีส ใน God of War 3


สำหรับแฟนเกม PS3 ผู้บูชาความซาดิสต์คงได้เห็นเต็มสองตาแล้วว่า “เครโทส” หอบห้วความแค้นติดไม้ติดหมัดมาฝากเหล่าทวยเทพแห่งโอลิมปัสมากซะขนาดไหน แม้แต่เทพทั้ง 3 ภพผู้ยิ่งใหญ่อย่างจ้าวสมุทร “โพเซดอน” เทพแห่งความตาย “ฮาเดส” และราชันย์แห่งทวยเทพ “ซุส” ยังต้องดับดิ้นด้วยน้ำมือของพี่เหม่งอย่างอเนจอนาถจนดูเหมือนว่า “เทพเจ้า” เป็นสิ่งที่น่าชังและชั่วร้าย ทั้งที่ตามตำนานนั้นชาวกรีกโบราณมีความเป็นนักปรัชญาอยู่เต็มตัว พวกเขาสร้างทวยเทพให้ละม้ายกับมนุษย์ปุถุชน นั่นคือมีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่ในขณะเดียวกันก็มีด้านสว่างและสร้างคุณงามความดีต่อมนุษย์มากมาย เราลองมาพบกับอีกด้านที่ยิ่งใหญ่ เรื่องราวเหนือจินตนาการของมหาเทพทั้ง 3 ภพ และเทพเจ้าองค์อื่น ๆ สนองอารมณ์สาวกพี่โล้นซ่าส์เช่นคุณ!!! (โล้นซ่าจัด แม่งเทพขิง)









                                                                   คู่นี้น่าจะมันโล้นท้งคู่


มาเข้าชมกันเยอะๆนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น